วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ไทยรัฐ พาไปลองของบึกบึน NISSAN NAVARA NP300 กระบะพันธุ์โหด (ตอนที่ 2)

ลองของบึกบึน NISSAN NAVARA NP300 กระบะพันธุ์โหด (ตอนที่ 2)

โดย อาคม รวมสุวรรณ 1 ส.ค. 2557 15:00

ทางทดสอบในอำเภอแม่ริมช่วงกลางฤดูฝนเหมาะมากกับมาดลุยๆ ของ NP300 วิศวกรของ Nissan แจ้งมาว่า มันเหนือกว่า Navara รุ่นที่แล้วอย่างชัดเจน เส้นทางทดสอบช่วงแรกจากหน้าโรงแรมโฟร์ซีซั่นไปจนถึงจุดแวะพักแรกยาว 49.3 กิโลเมตร เฉียดเข้าใกล้กับทางที่จะขึ้นไปยังอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังในจังหวัด เชียงใหม่ ขณะที่กระบะส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับงานบรรทุกหนัก แต่พฤติกรรมการใช้รถยนต์ปิกอัพของคนไทยยังคงไม่เปลี่ยน ผู้คนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ ซึ่งโดยมากแล้วใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหรือในพื้นที่ห่างไกลยังคงใช้มันราวกับรถ ทั่วไป โดยแทบจะไม่เคยบรรทุกสัมภาระหนักๆ แบบเต็มพิกัด ขนาดที่ใหญ่โตกับสัดส่วนของความสูงบวกความสามารถในการลุย ทำให้รถยนต์ประเภทนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปิกอัพส่วนใหญ่สร้างขึ้นมาเพื่อการขับขี่ที่เน้นความสมบุกสมบัน เช่นเดียวกับ Navara NP300 ที่ดูเหมือนจะมีทุกอย่างตามที่คุณต้องการ แต่ไม่ว่ามันจะดีเลิศประเสริฐศรีขนาดไหน ทางโหดๆ ในอำเภอแม่ริมจะให้คำตอบนับจากนี้ต่อไป


ห้องโดยสารหรูดูดีขึ้น จากการจัดวางและรูปแบบของอุปกรณ์ คุณสามารถใช้งานบนฟังก์ชั่นต่างๆ ใน NP300 รุ่น 4 ประตู Double Cab ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 969,000 บาท ได้อย่างสะดวกโยธิน เนื่องจากมันมีภาษาไทยคอยรองรับสำหรับผู้ที่ไม่มีความถนัดด้านภาษาอังกฤษ ชุดควบคุมอุณหภูมิดิจิตอลแยกส่วนแถมช่องแอร์หลังให้กับผู้โดยสารที่เบาะหลัง กับหน้าจอมอนิเตอร์สั่งงานด้วยระบบสัมผัสกลายเป็นของที่จำเป็นซึ่งจะถูก บรรจุอยู่ในปิกอัพรุ่นท็อปยุคใหม่ทุกคัน เบาะคนขับปรับด้วยไฟฟ้ามีตำแหน่งท่านั่งที่ดีและสามารถปรับได้ด้วยการกดหรือ เลื่อนสวิตช์ที่ด้านข้างของตัวเบาะเนื่องจากเป็นเบาะแบบไฟฟ้าแต่ให้มาแค่ ตำแหน่งเดียว ท่านั่งที่สูงกว่าปกติ ทำให้มองเห็นได้ไกลมากยิ่งขึ้น และกลายเป็นเรื่องที่ดีสำหรับมุมมองรอบตัวที่โปร่งโล่ง


ลูกเล่นในระบบขับเคลื่อนที่คุณสามารถปรับการขับจาก 2 มาเป็น 4 ล้อ ด้วยความเร็วไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในรูปแบบ Shift on the Fly คืออีกหนึ่งความสามารถของเจ้า NP300 Double Cab 4x4 ในทางแบบชนบทที่คับแคบ พวงมาลัยให้ความรู้สึกถึงการเชื่อมโยงกันระหว่างการควบคุมและสัมผัสที่ค่อน ข้างแม่นยำ พวงมาลัยของ Navara NP300 ทำให้ผมนึกถึงพวงมาลัยเจ๋งๆ ใน Mazda BT-50 ทั้งความรู้สึก ระยะของการหมุนและสัมผัสที่ดีของน้ำหนักแม้จะเป็นปิกอัพพันธุ์ลุย พวงมาลัยทำตัวได้น่ารักทั้งบนทางเรียบหรือทางขรุขระ มันเหมือนกันมากจนรู้สึกได้ว่า Nissan กำลังใช้ความพยายามอย่างมาก ในการที่จะเอาชนะรถปิกอัพคู่แข่งที่มีพวงมาลัยเริดๆ อย่าง BT-50 Pro การจัดวางแซสชี เครื่องยนต์ เกียร์ เฟืองท้ายและเพลาขับเคลื่อน โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพในขณะขับขี่ส่งผลไปถึงการทรงตัวที่ออกมาในแนวนิ่งและ ค่อนข้างมั่นคงหากความเร็วที่ใช้อยู่ในระดับที่พอดิบพอดี สัดส่วนของความสูงในรถปิกอัพขับเคลื่อน 4 ล้อ จึงไม่เหมาะสำหรับการขับเข้าโค้งมุมแคบด้วยความเร็วสูงเนื่องจากเหตุผลหลัก ในด้านความปลอดภัย


เกียร์ที่มีระบบหน่วงความเร็วเมื่อขับลงทางลาดชัน ทำให้คุณไม่ต้องใช้เบรกหนักๆ ไปตลอดทางเมื่อต้องผจญกับเส้นทางขึ้น-ลงภูเขาแบบนี้ โคลนเลนและหลุมบ่อในแบบที่รถเก๋งไม่สามารถที่จะไปได้ ถูกเจ้า Navara NP300 ดูดกินบนทางเละๆ ที่ลัดเลาะไปตามไหล่เขาแบบสบายๆ ด้วยความที่อยากจะโชว์ประสิทธิภาพของรถคันนี้ ทีมจัดหาเส้นทางของ Nissan จึงไม่มีความปรานีใดๆ ทั้งสิ้นกับสื่อมวลชนที่จะต้องลงทดสอบสมรรถนะ หลุมโหดๆ ขนาดควายลงไปนอนเล่นได้ทั้งฝูงกับบางช่วงบางตอนที่เต็มไปด้วยหินก้อนบิ๊กๆ ทำให้ผมขับช้าลงจนแทบจะคลานในบางช่วงบางตอน เส้นทางที่ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวชอบใช้ในอำเภอแม่ริม แม้จะมีธรรมชาติที่งดงาม แต่ในยามที่ฝนชุกแบบนี้ มันคือทางที่จะใช้ทดสอบความสามารถของ NP300 อย่างแท้จริง ปางช้างในเขตทิศเหนือของจังหวัดเชียงใหม่กับสภาพความสมบูรณ์ของป่าในช่วงฤดู ฝนจากสีเขียวสดของพืชพันธุ์ไม้รอบๆ ตัว ทำให้รู้สึกดีเมื่อต้องมานั่งขับเจ้าตัวลุยตะกาย 4 ล้อของ Nissan คันนี้ มันวิ่งอย่างทุลักทุเลลุยป่าฝ่าเลนโคลนลึกๆ ได้ตามที่ต้องการโดยไม่ต้องอาศัยฝีไม้ลายมืออะไรกันมากมายนัก เกียร์ออโต้ 7 สปีด ที่มีตำแหน่งบวก-ลบแบบทริปทรอนิกส์ ทำให้การไต่ขึ้นหรือลงทำได้อย่างง่ายดายด้วยการดันคันเกียร์ไปยังตำแหน่งที่ คุณต้องการ เกียร์ตอบสนองได้เร็วและทำงานส่งถ่ายแรงบิด 450 นิวตันเมตร กระจายไปยังล้อขับเคลื่อนทั้ง 4 ตามโหมดที่ปรับตั้ง ซึ่งมีทั้ง 4L และ 4H ให้เลือกใช้ตามสภาพเส้นทางที่คุณใช้ลุย


ไต่ระดับความสูงข้ามลำธารและแม่น้ำสีแดงขุ่นสายเล็กๆ ที่ไหลอย่างเชี่ยวกรากเนื่องจากฝนตกทั้งคืน ช่วงทดสอบที่ 2 มีระยะทาง 59.6 กิโลเมตร เพื่อวกกลับมายังจุดเริ่มต้น ทางแบบลาดยางสองเลนสวนกันในบางช่วงบางตอนไม่เหลือสภาพพอจะให้รถเก๋งวิ่งผ่าน และทำให้เจ้า Navara NP300 ต้องพบกับอุปสรรคจากความเน่าของทางที่กำลังมุ่งหน้าเข้าไป ความชันเริ่มเพิ่มมากขึ้นแต่ทางกลับแคบจนบางครั้งแทบจะขับสวนกันไม่ได้ ผมต้องใช้ความพยายามเพิ่มมากขึ้นในการประคองรถให้อยู่ในเลนที่ถูกต้อง เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ฝนที่ตกอย่างสาหัสสากรรจ์ทำให้ดินไหล่เขาที่อุ้งน้ำเอาไว้ไม่ไหวได้พังถล่ม ลงมาและสร้างความยากลำบากในการที่จะวิ่งฝ่าเข้าไป เกียร์ต่ำในโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อใน NP300 ช่วยทำให้ทุกอย่างดูดีและง่ายขึ้น คุณจะเอาตัวรอดได้ในทางแบบนี้ด้วยรถขับเคลื่อนทุกล้อที่มีประสิทธิภาพ


แรงบิด 45.9 กิโลกรัมเมตรในย่าน 2000 รอบต่อนาที ที่ออกมาจากเครื่องยนต์ YD25DDTi ฉุดรั้งผลักดันตัวรถตะกุยตะกายขึ้นมาจากเนินที่ตั้งชันหรือปลักควายโหดๆที่ ไม่รู้จักหมดสิ้น การขับทดสอบแบบออฟโรดสร้างความสนุกสนานและความบันเทิงสำหรับพวกบ้าขับในด้าน การควบคุมพวงมาลัยและคันเร่งให้มีความสัมพันธ์ไปกับสภาพทาง แรงบิดที่ส่งออกมาตั้งแต่รอบต่ำทำให้การเอาตัวรอดในสถานการณ์ฉุกเฉินบนหลุม บ่อโคลนเลนเป็นไปตามที่ต้องการ ยาง Toyo Tires รุ่น Open Country ขนาด 255/60R18 108H ออกแบบมาเพื่อทำให้มันเป็นยางรถปิกอัพที่มีดอกยางแบบกึ่งเรียบกึ่งลุย ยางรุ่น Open Country ของ Toyo Tires มีสามารถในการบุกตะลุยทางลูกรังขรุขระอยู่บ้าง แต่เมื่อยางต้องมาผจญกับโคลนหนาๆ ที่มีความลื่น แรงบิดที่ปล่อยออกมามากถึง 45.9 กิโลกรัม/เมตร อาจทำให้ล้อหลังกับส่วนท้ายของเจ้า Navara อยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง อาการสไลด์ท้ายออกข้างจากความลื่นของเส้นทาง สร้างความตื่นเต้นหวาดเสียวปนความสนุกสนานได้เหมือนกันหากคุณรู้จักควบคุม คันเร่งและพวงมาลัยในโหมดขับเคลื่อน 4L บน NP300 รุ่นขับสี่


สถานีทดสอบแบบออฟโรดของ Nissan ถูกปรุงแต่งขึ้นมาเพื่อโชว์ความสามารถของตัวรถ โดยออกแบบทางโหดๆ ให้สื่อมวลชนขับทดสอบ ซึ่งมีทั้งเนินที่สูงชันใช้ทดสอบแรงบิดกับการใช้กำลังฉุดตัวเองขึ้นไปบนยอด เนินที่สูงลิบลิ่วจนก่อให้เกิดอาการเสียวท้อง ระบบรองรับการขับขี่ที่มีความผิดแปลกไปจากการขับบนทางราบ ถูกออกแบบมาเพื่อเอาชนะกฎเกณฑ์ทางฟิสิกส์ เนินลูกระนาดสลับไปมาทำให้ในบางช่วงบางตอน ล้อของเจ้า Navara NP300 ยกลอยขึ้นสองล้อพร้อมๆ กันโ ดยมีล้อที่เหลือกดยึดกับพื้นทาง ครูฝึกออฟโรดชาวต่างชาติที่ Nissan นำเข้ามาให้ความรู้ความเข้าใจในการขับขี่แบบออฟโรดช่วยสร้างประสบการณ์ดีๆ ที่ไม่ได้มีกันบ่อยมากนัก NP300 พิสูจน์ตัวเองและสอบผ่านทั้งสามสถานีแห่งความโหดมาได้แบบเนียนๆ


ท่ามกลางความนิยมในรถยนต์ประเภทนี้ ยังคงมีความเข้าใจผิดๆ อยู่อีกมากมาย สำหรับการขับขี่ใช้งานบนรถปิกอัพยกสูงในชีวิตประจำวัน เนื่องจากปัจจุบัน ยอมรับเลยว่าเครื่องยนต์ของรถกระบะในแต่ละค่าย มีการปรับปรุงในด้านพละกำลังแบบไม่มีใครยอมใคร แรงบิดที่เกิดขึ้นจากเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล ออกแบบมาเพื่อการฉุดลากตัวเองออกจากเส้นทางวิบาก บนทางตรงยาวมันจึงมีพลังเหลือเฟือในการทำความเร็ว ซึ่งอาจเร็วจนคุณตกใจเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด สำหรับการขับขี่บนไฮเวย์ เนื่องจากมีกำลังพอที่จะวิ่งในย่านความเร็วสูง ผู้คนในประเทศนี้จึงมักขับเจ้ากระบะยกสูงด้วยความเร็วที่มากเกินควรจนอาจก่อ ให้เกิดอุบัติเหตุ สัดส่วนของความสูงที่กลายเป็นข้อด้อยเมื่อขับเร็วเกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้การหักพวงมาลัยกะทันหันเพื่อหลบหรือแซง หรือไปเจอกับทางที่ไม่มีความคุ้นชิน เช่น โผล่ไปพบกับโค้งมุมแคบสุดๆ อาจทำให้ตัวรถเสียอาการจนยากที่จะควบคุม โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่ผิวถนนอยู่ในสภาพที่ไม่ปกติ แม้จะมีแรงม้าท่วมท้นมากเกือบๆ 200 ตัว กับแรงบิดมหาศาลในระดับ 450 นิวตันเมตร แต่การขับขี่บนทางตรงแบบไฮเวย์ ควรระมัดระวังไม่ให้ความเร็วสูงมากจนเกินไป ความเร็วตามค่าที่ป้ายกำหนดอาจดูช้ามากสำหรับคนที่ใจร้อน แต่มันถูกกฎหมายจราจรและเป็นความเร็วที่ทำให้คุณสามารถควบคุมรถได้อย่างง่าย ดายหากปฏิบัติตาม เป็นเรื่องยากเย็นแสนเข็ญ ในการที่จะทำให้คนไทยทำตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เห็นได้เลยจากสถิติอุบัติเหตุและจำนวนผู้เสียชีวิตบนท้องถนนที่สูงติดอันดับ โลกอยู่ในขณะนี้


Nissan Navara NP300 รุ่น DC 4WD VL 7AT ราคา 996,000 บาท เป็นค่าตัวที่คุณจะต้องจ่ายสำหรับรถปิกอัพยกสูงขับเคลื่อน 4 ล้อ คุณจะได้ตัวลุยตัวบรรทุกที่ไม่ค่อยได้ใช้งานมันอย่างเต็มที่เต็มทางมากนัก เนื่องจากซื้อมาเอาไว้ขับไปจ่ายตลาด ขับไปทำงานที่ต้องวิ่งผ่านทางแย่ๆ เอาไว้รับลูกหรือวิ่งเล่นบนทางชนบทโหดๆ ในวันหยุดพักผ่อน ใช้ชีวิตกลางแจ้งในที่ที่รถเก๋งเข้าไม่ถึง มันมีทุกอย่างตามที่คุณอยากได้ แต่ราคาก็ใกล้เคียงเฉียดหนึ่งล้านบาทสำหรับรุ่นสูงสุดของ NP300 ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์และพวงมาลัยทำงานได้ดี เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบรุ่นใหม่รหัส YD25DDTi ให้แรงบิดในแบบที่คุณจะต้องแปลกใจ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยมีมาให้ครบ กินเชื้อเพลิงดีเซลในแบบที่ควรจะเป็นสำหรับเครื่องยนต์รุ่นใหม่ มันมีการขับขี่ที่เทียบเท่าหรือดีกว่ารถปิกอัพคู่แข่งในบางจุดบางแง่มุม ขึ้นอยู่กับความชอบของตัวคุณเอง หากเคยใช้ Nissan Big M / Frontier มาจนถึง Navara ในเวอร์ชั่นสุดท้ายก่อนที่จะเปลี่ยนโฉมมาเป็น Navara NP300 คุณคงไม่สงสัยในเรื่องความแกร่งของแชสซีแบบบรรทุกหนักของมัน พ่อค้าผลไม้และชาวไร่ชาวนาต่างรู้ดีว่า Nissan มักผลิตรถปิกอัพที่สามารถบรรทุกหนักได้มากเท่าที่ต้องการ ไปลองขับดูตัวที่เล็งๆ เอาไว้แล้วเปรียบเทียบข้อดีข้อด้อยของแต่ละคันก่อนตัดสินใจควักเงินเกือบ ล้าน ดูจะเป็นการดีที่สุดสำหรับการเลือกซื้อกระบะขับสี่คันต่อไปของคุณ ไม่แน่ ฤดูน้ำหลากของปีนี้ คุณอาจกำลังเอาของบรรทุกใส่กระบะท้ายเจ้า NP300 ออกไปช่วยผู้คนที่ถูกน้ำท่วมก็ได้.
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom

ขอขอบพระคุณ คุณอาคม  รวมสุวรรณถ่ายทอดประสบการณ์ดีๆ ได้อย่างยอดเยี่ยมไม่มีที่ติ ทั้งคำพูดและภาพประกอบ และบจก. ไทย พรอสเพอรัส ไอที เอื้อเฟื้อพื้นที่บล็อกดีๆ ให้เราได้ใช้งานกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น